มีผู้ปฎิบัติบางท่าน ที่สังขารตกค้างเยอะ
อาจจะนําไปสู่สภาวะของความง่วง
ของความเมื่อยล้า ของความไม่สดชื่น
เหมือนกายนี้มันหนักมาก ความรู้สึกก็หนักมาก
อะไรก็ไม่ชัดไปทั้งหมด
หากว่าใครที่กําลังเผชิญกับอุปสรรคแบบนี้นะ
ให้เอาความรู้สึกมาเพ่งที่สะบักไหล่ทั้งสองด้าน
พร้อมกับลมหายใจเข้านะ
หายใจเข้าเพ่งไปที่สะบักไหล่ทั้งสองด้าน
หายใจออกปล่อยไป
อยู่บนไหล่นั่นแหละแต่ว่ามันเยื้อง
ไปทางด้านหลังเค้าเรียกว่าสะบักไหล่
แสงก็มาเร็วนะผู้ปฏิบัติบางท่านก็ขนลุกขนชัน
มันทําให้กายนี้ตื่นขึ้นมา
ความมืด ธาตุหนัก ความเมื่อยล้า
เราจะใช้พลังงานจากออกซิเจนไปเผามัน
โดยการเพ่งที่สะบักไหล่พร้อมกับลมหายใจเข้า
หายใจออกปล่อยไป หายใจเข้าเพ่งมาตรงนี้อีก
อยู่อย่างงี้
อุปสรรคคือความง่วง ถีนมิทธะ นิวรณ์
ความไม่ชัดมันเบลอ ๆ
หรืออุปสรรคอย่างอื่น
ความคิดนึก ความฟุ้งซ่านความสงสัย
ความชอบไม่ชอบที่พัวพันในอารมณ์
ที่มันร้อยรัดจิตให้ติดอยู่ในอารมณ์อุปสรรคทุกอย่าง
ทุกประเภทนะสามารถใช้อุบายนี้ได้
. . .
ลําดับสภาวธรรมจะเป็นแบบนี้นะ
จะเคลื่อนไปเอง จากหยาบไปละเอียด
โดยสภาวธรรมและอานาปานสติไม่มีใครจะไปทําลมหายใจสั้นได้
ตั้งแต่ลมหายใจสั้นเป็นต้นไป
สภาวธรรมจะปรากฏขึ้นเอง เป็นไปเอง
จากลมยาวเป็นลมสั้น จักเคลื่อนไปเองเป็นไปเอง
หากยังไม่เคลื่อนไปสู่ลมหายใจสั้น
ก็อยู่กับลมหายใจยาวนั่นแหละ
ตราบใดที่จิตไม่เคลื่อนออก
จากสะบักไหล่ในขณะลมหายใจเข้านะ
ตราบนั้นจิตของผู้ปฏิบัติก็จะสัมผัสกับความเบา
ปิยทัสสี ภิกขุ
============
นำนั่งปฏิบัติกลุ่ม Group Sitting 24-11-2024
พระอาจารย์นาวี ปิยทัสสี
ศูนย์วิปัสสนาวัดถ้ำดอยโตน
=========
https://youtu.be/g1XEwTI29z4