14 ส.ค. 64 (เช้า) - รู้ทุกข์จนออกจากทุกข์ : การรู้ทุกข์จึงมีความสำคัญมากสำหรับการออกจากทุกข์ และด้วยเหตุนี้้พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องรู้ เพราะเมื่อรู้แล้วก็จะไม่ไปยึด ไม่ไปแบก ไม่ไปถือในขันธ์ 5 ในสิ่งทั้งปวงที่มันเป็นตัวทุกข์ มันทุกข์ก็ทุกข์ของมันไป แต่ว่าตอนนี้เราไม่ทุกข์แล้ว ไม่มีผู้ทุกข์แล้ว แม้จะยังครองรูปอยู่ มีรูปแต่ว่าก็ไม่ทุกข์เพราะรูปนั้น
แต่การที่คนเราจะรู้ทุกข์ในความหมายที่ว่านี้ได้ มันก็ต้องเปิดรับความทุกข์ เมื่อทุกข์เกิดขึ้นแล้ว ใจต้องเปิดรับ ไม่ปฏิเสธ ไม่ผลักไสมัน เพราะ...
14 ส.ค. 64 (เช้า) - รู้ทุกข์จนออกจากทุกข์ : การรู้ทุกข์จึงมีความสำคัญมากสำหรับการออกจากทุกข์ และด้วยเหตุนี้้พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องรู้ เพราะเมื่อรู้แล้วก็จะไม่ไปยึด ไม่ไปแบก ไม่ไปถือในขันธ์ 5 ในสิ่งทั้งปวงที่มันเป็นตัวทุกข์ มันทุกข์ก็ทุกข์ของมันไป แต่ว่าตอนนี้เราไม่ทุกข์แล้ว ไม่มีผู้ทุกข์แล้ว แม้จะยังครองรูปอยู่ มีรูปแต่ว่าก็ไม่ทุกข์เพราะรูปนั้น
แต่การที่คนเราจะรู้ทุกข์ในความหมายที่ว่านี้ได้ มันก็ต้องเปิดรับความทุกข์ เมื่อทุกข์เกิดขึ้นแล้ว ใจต้องเปิดรับ ไม่ปฏิเสธ ไม่ผลักไสมัน เพราะว่าถ้าใจมันปิดกั้น ไม่เปิดรับความทุกข์ หรือไม่เปิดรับทุกข์ที่เกิดขึ้นมันก็จะเห็นทุกข์ได้อย่างชัดเจนได้อย่างไร มันจะเห็นทุกข์ตามความเป็นจริงได้อย่างไร
เราจะเห็นอะไรชัด ก็ต่อเมื่อเปิดรับสิ่งนั้น อันนี้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรมหรือรูปธรรมก็ตาม อย่างเราจะรู้จักก้อนหินก้อนหนึ่ง มันก็ต้องมองมันอย่างรอบด้าน แล้วก็เปิดใจรับสภาวะทุกอย่างของมัน จึงจะเห็นตามความเป็นจริงได้
ทุกข์ก็เหมือนกัน เราจะเห็นอย่างที่มันเป็นตามสภาวะที่เป็นจริงได้ ใจก็ต้องเปิด เมื่อเปิดจึงรู้ตามความเป็นจริงได้ แต่ถ้า ทุกข์ก็เหมือนกัน เราจะเห็นมันอย่างที่มันเป็น หรือเห็นสภาวะที่เป็นจริงได้ ใจก็ต้องเปิด เมื่อเปิดจึงจะรู้ จึงจะเข้าใจได้แจ่มแจ้งแจ่มชัด แต่ถ้าหากว่าปิดกั้น ปฏิเสธมัน อันนั้นมันก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจ
อารมณ์ที่ทำให้เกิดเป็นทุกข์ก็เหมือนกัน ความโกรธ ความเกลียด ก็ต้องเปิดใจรับมัน เปิดใจรับได้อย่างไรก็คือมีสติ จะทำให้เห็นมันด้วยใจที่เป็นกลาง เห็นมันด้วยความรู้สึกที่ไม่ผลักไส ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง อันนี้ก็คือสิ่งที่ครูบาอาจารย์เรียกว่ารู้ซื่อๆ เพราะฉะนั้น มีอะไรเข้ามาสู่กายสู่ใจของเรา ก็ไม่ผลักไส เปิดใจรับ แล้วก็ดูมัน
และเมื่อดูมัน ก็จะเกิดความรู้ความเข้าใจ เป็นลำดับ จนกระทั่งสามารถที่จะถอนจิตออกจากสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะว่ามันไม่มีความหลง ไม่มีความเข้าใจผิด ไม่ไปยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป มันจะรู้ทุกข์ได้อย่างแจ่มแจ้งก็ต้องมีสติ แล้วการรู้ด้วยสตินี้แหละที่จะทำให้เกิดการรู้ด้วยปัญญา จนสามารถที่วางความทุกข์หรือถอนจิตออกจากความทุกข์ได้
View more