18 ส.ค. 63 - ยาขมและขนมหวาน : พุทธศาสนา จึงมีอยู่ 2 ด้านเสมอ ด้านหนึ่งก็ให้ความหวังผู้คนว่า ถ้าทำบุญกุศลรวมทั้งรักษาศีล ก็จะมีความสุขความเจริญ มีลาภยศสุขสรรเสริญ แต่อีกด้านหนึ่งพุทธศาสนาก็เตือนว่า ลาภยศสุขสรรเสริญก็ไม่เที่ยง ความเจริญมันเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงเหมือนกัน เมื่อมีเจริญก็ต้องมีเสื่อม คนที่มาทำบุญเพื่อหวังกำลังใจว่าจะได้มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ พระท่านก็เตือนว่ามีอายุยืนยาวแค่ไหน ในที่สุดก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย มีพละกำลังแค่ไหน...
18 ส.ค. 63 - ยาขมและขนมหวาน : พุทธศาสนา จึงมีอยู่ 2 ด้านเสมอ ด้านหนึ่งก็ให้ความหวังผู้คนว่า ถ้าทำบุญกุศลรวมทั้งรักษาศีล ก็จะมีความสุขความเจริญ มีลาภยศสุขสรรเสริญ แต่อีกด้านหนึ่งพุทธศาสนาก็เตือนว่า ลาภยศสุขสรรเสริญก็ไม่เที่ยง ความเจริญมันเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงเหมือนกัน เมื่อมีเจริญก็ต้องมีเสื่อม คนที่มาทำบุญเพื่อหวังกำลังใจว่าจะได้มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ พระท่านก็เตือนว่ามีอายุยืนยาวแค่ไหน ในที่สุดก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย มีพละกำลังแค่ไหน สุดท้ายก็ร่วงโรยเมื่อถึงวัยชรา อันนี้คือความจริงอีกด้านหนึ่งที่พุทธศาสนาได้เตือนได้สอนเรา
ขณะที่ผู้คนมาวัดเพื่อให้พระพรมน้ำมนต์ว่า จะได้โชคได้ลาภมั่งคั่งร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติ แต่อีกด้านหนึ่งพุทธศาสนาก็เตือนว่าสิ่งเหล่านี้แม้จะได้สมหวัง มันก็ไม่เที่ยง และยิ่งกว่านั้นยังเป็นทุกข์ด้วย เงินทองทรัพย์สมบัติพวกนี้มันให้ความสุขแก่เราก็จริง แต่มันก็เจือไปด้วยทุกข์เพราะต้องรักษา ทุกข์เพราะต้องระแวดระวังกลัวคนมาเอาไป แต่ไม่ว่าจะระแวดระวังอย่างไรสุดท้ายก็ต้องเสื่อมสลายหายไป ถ้าไปยึดมั่นถือมั่นกับมันมาก มันก็จะมีแต่ทุกข์อย่างเดียว ถ้าหากว่าความหวังกำลังใจของพุทธศาสนาเปรียบเหมือนกับขนมหวาน การเตือนให้คนเห็นความจริงที่ไม่ค่อยอยากฟังเท่าไรก็คือยาขม
พุทธศาสนามีทั้งส่วนที่เป็นขนมหวานและยาขม ส่วนใหญ่ก็มาวัด มาเข้าหาพระพุทธศาสนาก็หวังอยากจะได้ขนมหวาน ความหวังความมั่นใจที่จะได้มีความสุขความเจริญ ความมีโชคลาภมีอายุวรรณะสุขะพละความสำเร็จรุ่งโรจน์ พระพุทธศาสนาก็มีให้ แต่ว่าอีกด้านหนึ่ง ท่านก็เตือนว่าที่อยากได้ทั้งหมดนี้มันก็ไม่เที่ยง และตัวมันเองก็เป็นทุกข์ด้วย ถึงแม้ว่าเราจะมีความหวังว่าทำดีแล้วจะได้ดี มีความสุขความเจริญ แต่ท่านก็เตือนว่า เราทั้งหลายเป็นผู้ที่ถูกความทุกข์หยั่งเอาแล้ว มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าแล้ว นอกจากสิ่งที่จะชี้ให้เราเห็นว่าสิ่งที่เราปรารถนานั้นที่เรียกว่าอิฏฐารมณ์คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่น่าใคร่น่าปรารถนารวมถึงเหตุการณ์ที่อยากได้อย่างเช่น มีลาภ มียศ มีสุข มีสรรเสริญ อันนี้ก็หนีไม่พ้นต้องมาเจอกับอนิฏฐารมณ์ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ เจอทุกข์ แล้วก็คำนินทาว่าร้าย
หลายคนเข้าหาพุทธศาสนาเพราะอยากจะมีเยอะๆ แต่พุทธศาสนาก็เตือนว่า มีกับหมดเป็นของคู่กันหลายคนทำบุญเพื่ออยากได้เยอะๆ แต่ท่านก็เตือนว่า ได้กับเสียเป็นของคู่กัน หลายคนมาทำบุญเพราะอยากได้พบคู่ครองคนรักคู่ชีวิต แต่ท่านก็เตือนว่า พบกับพรากเป็นของคู่กัน เช่นเดียวกันกับ เจอกับจาก อันนี้เรียกว่าเป็นยาขม แต่ว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นทีเดียว ขนมหวานกินมากๆก็ไม่ดี เพราะว่าทำให้เกิดโรค แต่ว่ายาขมช่วยบรรเทาโรคได้ บรรเทาทุกข์ได้
View more