15 มี.ค. 63 - รับมือกับความสูญเสีย : ความจริงที่เรียกว่าอนิจจัง ทุกคนผ่านเข้ามาในชีวิตเราเพียงชั่วครั้งชั่วคราว สุดท้ายก็ต้องจากเราไป และสักวันหนึ่งก็ต้องถึงคราวที่เราจะเป็นฝ่ายจากไป เราพบกันวันนี้ก็เพื่อพรากจากกันในวันหน้า ดังนั้นในขณะที่ยังมีโอกาส เราจึงควรทำดีต่อกัน เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน สิ่งใดที่ควรทำ ไม่ควรผัดผ่อนหรือรั้งรอ แต่ให้รีบทำเสียแต่วันนี้ เพราะหากผัดผ่อนไปวันหน้า แน่ใจได้อย่างไรว่าวันนั้นจะมาถึง ภาษิตธิเบตกล่าวว่า “พรุ่งนี้กับชาติหน้า ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะมาก่อน” ใช่หรือไม่ว่า พ้นจากวันนี้ไปก็อาจเป็นชาติหน้าเลยก็ได้
นอกจากการทำความดีต่อกันเสียแต่วันนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจในวันหน้าเมื่อคนรักจากไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมก็คือการเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อรับมือกับความตายที่จะเกิดขึ้นกับเราเอง ในเมื่อเราทุกคนต้องตาย ก็ควรคิดถึงการตายดีด้วย อย่านึกถึงการอยู่ดีเท่านั้น เราจะตายดีได้ก็เพราะหมั่นทำความดี สร้างบุญกุศล จนมั่นใจในคุณค่าของชีวิตที่ผ่านมา อีกทั้งฝึกจิตอยู่เสมอ พร้อมจะปล่อยวางทุกอย่างเมื่อวาระสุดท้ายมาถึง ไม่มีสิ่งใดค้างคาใจ ไม่ว่าคนรัก ทรัพย์สมบัติ ความโกรธ หรือความรู้สึกผิด