29 ส.ค. 68 - อดกลั้นได้ใจงอกงาม : แต่ว่าการอั้นความคิดอารมณ์กับการอั้นอุจจาระปัสสาวะนี่ มันต่างกันอย่างหนึ่ง ที่สำคัญก็คือว่า เวลาอั้นอุจจาระปัสสาวะมันต้องระบายออกมา ต้องระบายเร็ว ๆ ด้วย แต่ว่าอั้นความคิด อั้นอารมณ์ แม้บางครั้งใหม่ ๆ มันรู้สึกเหมือนอกจะแตกแต่ว่าถ้าเรามีสติเห็นมัน ดูมัน มันก็จะค่อย ๆ คลี่คลายไปได้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะต้องระบายเหมือนกับระบายปัสสาวะอุจจาระในยามที่ต้องอั้นนาน ๆ อุจจาระปัสสาวะนี่มันต้องระบาย แต่ว่าความคิดอารมณ์แม้ในภาวะแรก ๆ รู้สึกว่าต้องอั้น ต้องใช้ความอดกลั้น แต่พอเวลาผ่านไป มันค่อย...
29 ส.ค. 68 - อดกลั้นได้ใจงอกงาม : แต่ว่าการอั้นความคิดอารมณ์กับการอั้นอุจจาระปัสสาวะนี่ มันต่างกันอย่างหนึ่ง ที่สำคัญก็คือว่า เวลาอั้นอุจจาระปัสสาวะมันต้องระบายออกมา ต้องระบายเร็ว ๆ ด้วย แต่ว่าอั้นความคิด อั้นอารมณ์ แม้บางครั้งใหม่ ๆ มันรู้สึกเหมือนอกจะแตกแต่ว่าถ้าเรามีสติเห็นมัน ดูมัน มันก็จะค่อย ๆ คลี่คลายไปได้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะต้องระบายเหมือนกับระบายปัสสาวะอุจจาระในยามที่ต้องอั้นนาน ๆ อุจจาระปัสสาวะนี่มันต้องระบาย แต่ว่าความคิดอารมณ์แม้ในภาวะแรก ๆ รู้สึกว่าต้องอั้น ต้องใช้ความอดกลั้น แต่พอเวลาผ่านไป มันค่อย ๆ หายไป ค่อย ๆ คลี่คลาย ละลายหายไป หรือยิ่งถ้าเกิดว่าเรามีท่าทีที่ถูกต้องกับมัน เราก็ดูมันเฉย ๆ มันจะหายไปเอง อาจจะไม่ต้องระบายเลยก็ได้
แต่คนใหม่ ๆ ก็ต้องระบาย คนที่ไม่ได้ฝึกมาก็ต้องระบาย แต่ถ้าระบายเป็นอาจิณ ไม่รู้จักอดกลั้นเสียบ้าง มันก็มีผลเสียต่อตัวเราเองอย่างที่ว่ามา ฉะนั้นการรู้จักอดกลั้นมันเป็นเรื่องสำคัญมากแต่ต้องอดกลั้นให้ถูก ใหม่ ๆ ก็ต้องใช้ขันติ อดกลั้นเอาไว้ โกรธแล้วไม่พูด เพราะรู้ว่าถ้าพูดไปแล้วมันจะเกิดความเสียหายตามมา อยากจะนินทาว่าร้ายใครแต่ก็ไม่พูด เพราะรู้ว่าถ้านินทาไปแล้ว เดี๋ยวเกิดปัญหาตามมาเมื่ออีกฝ่ายก็ได้ยิน เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน เราก็ไม่พูด
แน่นอนว่าใหม่ ๆ มันก็ต้องใช้ความอดกลั้นมาก อาจจะรู้สึกเหมือนกับอกจะแตก แต่พอเราทำไปนาน ๆ ไม่ใช่แค่ฝึกขันติอย่างเดียวแต่ว่าเราฝึกสติไปด้วย เราจะเห็นความคิดเห็นอารมณ์ที่มันเกิดขึ้น เห็นแล้วจะเรียกว่าปล่อยหรือวาง มันจะเกิดสิ่งที่หลวงพ่อเรียกว่า มันจะเกิดความราบเรียบขึ้นมา สติเหมือนกับตัวไถให้ราบเรียบ สิ่งที่เคยอัดแน่นอยู่ในใจมันก็ค่อย ๆ คลี่คลายหายไป ก็โปร่งโล่ง
และนี่เป็นวิธีที่เราต้องฝึกเหมือนกัน ความรู้จักอดทนรอคอย และอดกลั้นต่อความอยาก ไม่ว่าจะเป็นความอยากชนิดใดก็ตาม อยากรู้อยากเห็น อยากได้คำตอบ อยากเสพ อยากบริโภค อยากพูด อยากบ่น อยากโวยวาย อันนี้มันเป็นเรื่องที่เราต้องฝึก เพราะถ้าหากว่าคนเรามีความคิดอยากจะพูดก็พูด มีความคิดอยากจะโวยวายก็โวยวาย อยากจะได้อะไรก็ไปหาสิ่งนั้นมาสนองความอยาก เราจะไม่มีความเจริญเติบโตงอกงามภายในเลย สุดท้ายเราก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสได้ง่าย และคนเราถ้าหากว่าพ่ายแพ้ต่อกิเลสแล้ว มันก็มีแต่ความทุกข์สถานเดียว
View more