17 ส.ค. 64 - หมั่นมองตน : คนที่อยู่กับอารมณ์ อยู่กับความหลงมาตลอด มันไม่รู้จักความหลง มันไม่รู้จักอารมณ์ จนกว่ามันจะได้สัมผัสกับสภาวะที่เป็นความรู้สึกตัว หรือว่าสภาวะที่ปลอดจากอารมณ์ และพอมีอารมณ์ขึ้นหรือความโกรธเกิดขึ้น หรือว่ามีความผิดปกติอยู่ในใจ มันก็จะรู้ รู้เพราะว่ามีสติมาบอก สติมันจำได้ว่าอาการแบบนี้เกิดจากอารมณ์ชนิดนี้ หรือเป็นอาการของอารมณ์ชนิดนี้ ความโกรธมันมีอาการที่รุ่มร้อน ความอกหนักใจมีอาการของความหนักอึ้ง หรือว่าความเหงา ความว้าเหว่มันมีความรู้สึกโหวงๆ สติมันจำได้ มันจำภาวะอารมณ์เหล่านั้นได้ จากการที่เราเฝ้าดูบ่อยๆ แล้วพอมันเกิดขึ้นมา สติก็ทำงานทันที เตือนให้เรารู้ว่า ตอนนี้กำลังโกรธ ตอนนี้กำลังอกหนักใจ ตอนนี้กำลังเหงา สติซึ่งพุ่งออกไปข้างนอกก็จะกลับมา อารมณ์เหล่านั้นก็จะฝ่อไปเลย
เพราะฉะนั้น วิธีเดียวที่จะทำให้จิตไม่พุ่งออกไปข้างนอก จนกระทั่งก่อความเสียหายเพราะความลืมตัวก็คือ การที่เราหมั่นมามองดูตนอยู่เสมอ โดยมีสติเป็นเครื่องเตือนให้กลับมาตามรู้ ให้กลับมาดู ให้กลับมาเห็น ไม่ใช่ว่าจะคอยดักดูมันตลอดเวลา เราทำงาน เรากินข้าว เราก็อยู่กับการงาน อยู่กับการกินข้าว แต่พอจิตกระเพื่อมขึ้นมา เรารู้ตัวเลยเพราะสติมาบอก สติเป็นเซ็นเซอร์ที่มาก ถ้าฝึกบ่อยๆ สติจะเป็นเซ็นเซอร์ที่ไว เป็นเซ็นเซอร์ของจิตที่ทำให้อารมณ์และความคิดต่างๆโดยเฉพาะอกุศล และความคิดลบ มันไม่สามารถที่จะมาครอบงำกำกับจิตใจ หรือบงการให้เราพูด ทำในสิ่งที่ไม่สมควรได้