28 ก.พ. 64 - ปัจจุบันคือบ้านของใจ : ที่ผ่านมาเราหาบ้านให้กาย เราทุ่มเทเงินทอง แล้วก็เวลาสำหรับการหาบ้านให้กับร่างกาย บ้านที่เราอยู่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นบ้านเช่า ที่เป็นของเราเอง ที่จริงก็เป็นแค่บ้านของกาย แต่มันไม่ใช่บ้านของใจ แต่ถ้าเรามีความเป็นธรรมกับกาย กับใจ หาบ้านให้กายไปก่อนแล้วก็หาบ้านให้ใจ บ้านของใจก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนมันก็คือบ้านของกาย ฝึกให้ใจมาอาศัยกายเป็นที่พักพิง เวลาเดิน ใจก็อยู่กับการเดิน เวลานั่งใจก็อยู่กับการนั่ง เวลาเรากินเคี้ยวลิ้ม ใจเราก็อยู่กับกินเคี้ยวลิ้ม เวลากายเ...
28 ก.พ. 64 - ปัจจุบันคือบ้านของใจ : ที่ผ่านมาเราหาบ้านให้กาย เราทุ่มเทเงินทอง แล้วก็เวลาสำหรับการหาบ้านให้กับร่างกาย บ้านที่เราอยู่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นบ้านเช่า ที่เป็นของเราเอง ที่จริงก็เป็นแค่บ้านของกาย แต่มันไม่ใช่บ้านของใจ แต่ถ้าเรามีความเป็นธรรมกับกาย กับใจ หาบ้านให้กายไปก่อนแล้วก็หาบ้านให้ใจ บ้านของใจก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนมันก็คือบ้านของกาย ฝึกให้ใจมาอาศัยกายเป็นที่พักพิง เวลาเดิน ใจก็อยู่กับการเดิน เวลานั่งใจก็อยู่กับการนั่ง เวลาเรากินเคี้ยวลิ้ม ใจเราก็อยู่กับกินเคี้ยวลิ้ม เวลากายเดินไปข้างหน้า ใจก็เดินไปข้างหน้าด้วย รับรู้ว่ากายเคลื่อนไปข้างหน้า เวลากายถอยหลัง ใจก็รับรู้ เลี้ยวซ้ายแลขวา ไม่ใช่เป็นเรื่องของกายอย่างเดียว เป็นเรื่องของใจด้วย ใจก็รับรู้ด้วย
แต่ว่าหาบ้านให้ใจแล้ว บางทีใจก็หายหัวไปด้วย นอกจากหาบ้านให้ใจแล้ว ก็ต้องพาใจกลับมาด้วย พาใจกลับมาบ้าน ใหม่ๆ ใจเหมือนกับเด็กใจแตก ชอบเที่ยว ทั้งๆที่มีบ้านแล้ว หาบ้านให้แล้วใจก็ยังชอบเที่ยวชอบเถลไถล และบางทีก็ถูกจับถูกลักพาตัวไป หรือหายไปในโลกแห่งความคิด ไหลลงไปในหลุมอารมณ์ ถูกดักถูกลักพาถูกจับพาไป หรือหลงป่าแห่งความคิด บางคนไม่รู้ว่าใจหายไปไหน เพราะว่าหลงวนอยู่ในความคิดจนออกมาไม่ได้
เราต้องรู้จักพาใจกลับมาอยู่บ้าน คำว่าบ้านมีความหมายพิเศษก็คือว่า เมื่อใจมาอยู่บ้าน บ้านคือที่ที่เรามีอิสระเสรีจะเข้าจะออกจะไปไหนก็ได้ ที่ๆเราเรียกว่าบ้านคือที่ๆเรามีอิสระ จะอยู่จะไปจะเข้าจะออก บ้านของใจก็ฉันนั้น ก็เหมือนกัน เมื่อเราเอากายเป็นบ้านของใจ ไม่ว่าใจจะอยู่กับกาย หรือจะไปไหนก็ได้ ให้มันมีอิสระ
View more