20 เม.ย. 64 - โลกรู้แล้วยึด ธรรมรู้แล้ววาง : ถ้าเราเจริญสติเราก็จะเห็นของจริง เห็นความจริง เห็นสัจธรรมเกี่ยวกับตัวเรา เห็นความจริงเกี่ยวกับกายและใจ ว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เห็นอย่างนี้แล้วก็จะปล่อยวาง เพราะรู้ว่ายึดไม่ได้ และไม่น่ายึด เพราะมันเป็นทุกข์ แปรเปลี่ยนอยู่เสมอ นี้คือปัญญาที่เกิดจากการเห็นกายเห็นใจอยู่เสมอ ปัญญาทำให้ใจสว่าง ทีแรกจะทำให้เกิดความสงบ แต่ในที่สุดก็ทำให้เกิดความสว่าง ส่วนความสงบนั้นถือว่าเป็นเรื่องสมถะ สมถกรรมฐานคือการฝึกใจให้เกิดความสงบ แต่การทำให้ใจสว่างเป็นเรื่องของวิปัสสนา สว่างคือเกิดปัญญาแล้วปล่อยวางได้ ปล่อยวางความยึดติดถือมั่นใน ตัวกูของกู นี้เป็นเรื่องที่ชาวพุทธเราควรจะเข้าใจ ถึงแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ว่ามันช่วยให้เราพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง เพราะว่าความทุกข์ถึงที่สุดแล้วเกิดจากความยึดติดว่าเป็นตัวกูของกู ยึดติดร่างกาย ยึดติดจิตใจว่าเป็นตัวกูของกู หลงคิดว่า ใจนี้บังคับได้ ร่างกายนี้บังคับได้ พอไม่เป็นไปอย่างที่คิดหวังก็ทุกข์ โมโห โกรธกายกับใจ บางทีก็โมโหใจที่มันเอาแต่โกรธเอาแต่อยาก ทำไมไม่ยอมสงบเสียที นี่ก็เพราะความยึดติด เพราะความไม่รู้ว่าใจไม่ใช่ของเรา