26 ก.ย. 63 (เช้า) - น้อมธรรมเข้ามาใส่ตัว : การเจริญสติ ก็ไม่ต่างอะไรจากการปีนเขาเลย ก็คือว่า ให้ใจอยู่กับปัจจุบัน ปีนเขา ขณะที่ปีน เราวางเราลืมจุดหมายข้างหน้าไว้เลย แม้กระทั่งทางที่อยู่ข้างหน้า เลยไป 10 เมตร เราก็ไม่สนใจ เราสนใจแต่ทางที่เรากำลังจะเหยียบ ทางที่เรากำลังจะก้าวเท่านั้นแหละ เวลาปฏิบัติธรรมก็เหมือนกันโดยเฉพาะเวลาเดินจงกรม ถ้าใจเราไปอยู่ที่จุดหมาย เดินเพื่ออยากจะได้ความสงบ อยากจะได้ความรู้เนื้อรู้ตัว พอใจมันวางอยู่ตรงนั้น เดินไปเดิน...
26 ก.ย. 63 (เช้า) - น้อมธรรมเข้ามาใส่ตัว : การเจริญสติ ก็ไม่ต่างอะไรจากการปีนเขาเลย ก็คือว่า ให้ใจอยู่กับปัจจุบัน ปีนเขา ขณะที่ปีน เราวางเราลืมจุดหมายข้างหน้าไว้เลย แม้กระทั่งทางที่อยู่ข้างหน้า เลยไป 10 เมตร เราก็ไม่สนใจ เราสนใจแต่ทางที่เรากำลังจะเหยียบ ทางที่เรากำลังจะก้าวเท่านั้นแหละ เวลาปฏิบัติธรรมก็เหมือนกันโดยเฉพาะเวลาเดินจงกรม ถ้าใจเราไปอยู่ที่จุดหมาย เดินเพื่ออยากจะได้ความสงบ อยากจะได้ความรู้เนื้อรู้ตัว พอใจมันวางอยู่ตรงนั้น เดินไปเดินไปจนเครียด เพราะว่ามันคิดถึงแต่เป้าหมายอย่างเดียวแล้วก็อาจจะผิดหวังที่ยังไม่ได้อย่างที่ต้องการ
แต่พอเราลืมหรือวางเป้าหมาย อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับแต่ละก้าว ใจมันจะคิดมันจะลอยอย่างไรก็ตาม พอรู้ตัวก็ดึงกลับมาอยู่กับปัจจุบัน งานก็เหมือนกัน งานหนักงานเยอะแค่ไหนหรือจะมีอีกกี่ชิ้นที่รอเราอยู่ ก็วางมันไว้ก่อน ใจเราอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับงานที่ทำ อยู่กับแต่ละชั่วโมงแต่ละนาทีที่กำลังทำ มันจะเสร็จเมื่อไหร่ก็ช่างมัน แต่ว่าใจเราจะอยู่กับปัจจุบัน ก็จะพบว่าการทำงานกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่เครียด มันก็จะหนักแค่อย่างเดียวอาจจะเหนื่อยแค่อย่างเดียวเหนื่อยกายแต่ว่าใจไม่เหนื่อยเพราะว่าไม่มีความเครียดไม่มีความวิตก ที่เครียดวิตกเพราะว่าใจไปอยู่กับอนาคตมันก็เลยกังวลเมื่อไหร่จะเสร็จ เสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร จะดีไหม อันนี้ทำให้เครียด ทำให้เหนื่อย แต่พออยู่กับปัจจุบัน มันเหมือนกับการปีนเขา มันก็ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อยแต่มันก็ไม่ถึงกับเหงื่อจนถึงกับต้อง หมดสภาพไปเลย บางทีไม่ต้องพักเลยก็ได้ ทำไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินช้ากลับถึงเร็ว แต่ยิ่งเดินเร็วกลับถึงช้า การปฏิบัติธรรมหรือการทำงานก็เหมือนกัน
View more