11 ก.ย. 63 - เรียนรู้จากความผิดพลาด : เมื่อยังหนุ่ม เปี๊ยก โปสเตอร์ นักวาดและผู้กำกับหนังชื่อดังระดับตำนาน มีเพื่อนร่วมงานและร่วมเที่ยวอยู่สองคน หนึ่งในนั้นชื่อ “เกษียร” วันหนึ่งขณะที่ทั้งสามกำลังกินอาหาร เกษียรเห็นคนเมาในร้านเดียวกัน จึงพูดขึ้นว่า “โง่ฉิบหาย กินเหล้าให้เหล้ากิน”
สองเดือนต่อมา ทั้งสามคนได้รับเชิญไปงานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อน ทุกโต๊ะมีเบียร์วางอยู่ พวกเขาจึงลองดื่มดูเพราะอยากรู้ทำไมผู้คนหลงใหลกันนัก ชิมดูก็เห็นตรงกันว่า เปรี้ยว ๆ ฝืด ๆ
11 ก.ย. 63 - เรียนรู้จากความผิดพลาด : เมื่อยังหนุ่ม เปี๊ยก โปสเตอร์ นักวาดและผู้กำกับหนังชื่อดังระดับตำนาน มีเพื่อนร่วมงานและร่วมเที่ยวอยู่สองคน หนึ่งในนั้นชื่อ “เกษียร” วันหนึ่งขณะที่ทั้งสามกำลังกินอาหาร เกษียรเห็นคนเมาในร้านเดียวกัน จึงพูดขึ้นว่า “โง่ฉิบหาย กินเหล้าให้เหล้ากิน”
สองเดือนต่อมา ทั้งสามคนได้รับเชิญไปงานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อน ทุกโต๊ะมีเบียร์วางอยู่ พวกเขาจึงลองดื่มดูเพราะอยากรู้ทำไมผู้คนหลงใหลกันนัก ชิมดูก็เห็นตรงกันว่า เปรี้ยว ๆ ฝืด ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ระหว่างที่กำลังเขียนรูปกันอยู่ เกษียรก็สั่งเบียร์มาดื่ม เปี๊ยกจึงท้วงว่า “อ้าวเคยว่าเขา ทำไมวันนี้กินซะเอง” เกษียรตอบว่า “นายไม่รู้อะไร เหล้าน่ะของคนสถุล เบียร์ช่วยผ่อนคลาย เป็นเรื่องของสังคมชั้นสูง”
ในที่สุดเกษียรก็ติดเบียร์ ดื่ม ๔-๕ ขวดทุกวัน วันไหนไม่กิน ก็ทำงานไม่ได้ และแล้ววันหนึ่งก็ตะโกนสั่งลูกน้องให้ไปเอาแม่โขงมาเป๊กหนึ่ง เปี๊ยกจึงแย้งว่า “ไหนว่าเหล้าไม่ดี เป็นเรื่องของคนสถุลไม่ใช่หรือ” คำตอบของเกษียรก็คือ “นายต้องมีเหตุผลหน่อย เราทำงานแบบนี้มีรายได้เท่าไหร่วะ เดี๋ยวนี้เรากินเบียร์วันละห้าขวด แล้วมันจะไหวไหม ” แล้วเขาก็อธิบายต่อ “เหล้านี่เป๊กเดียว อยู่เลย”
สุดท้ายเขาก็ติดเหล้าอย่างหนักจนเป็นอัมพาตและสิ้นชีวิตเพราะเหล้า
เรื่องของเกษียรดูเหมือนจะสอดคล้องกับคำโบราณที่ว่า “อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา” ทำไมการทำเช่นนั้นจึงนำภัยมาสู่ตัว หลายคนนึกถึงความเชื่อที่ว่า หากพูดไม่ดีกับใคร มันจะย้อนกลับเข้าตัว ดังนั้นจึงควรระมัดระวังคำพูดของตน แต่ที่จริงแล้วชะตากรรมของเขาเป็นผลจากความประมาทโดยแท้ ไม่ใช่เพราะคำพูดของเขา
เกษียรนั้นประมาทในพิษสงของเหล้า เขาคิดว่ามันล่อหลอกได้ก็แต่คนโง่ แต่ไม่มีวันทำอะไรเขาได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ระวังตัว จึงถูกเหล้าล่อหลอกให้ถลำทีละน้อย เริ่มต้นด้วยการลิ้มลองนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็หันมาเสพชนิดอ่อน ๆ ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อผ่อนคลาย ต่อมาก็โดดเข้าหาเหล้าอย่างเต็ม ๆ ด้วยเหตุผลว่ามันถูกกว่าเบียร์ ก็แค่เหล้าเป๊กเดียว จะเสียหายอะไร ดีกว่ากินเบียร์ ๔-๕ ขวด ข้ออ้างที่สวยหรูดูมีเหตุผลชักนำให้เขากินเหล้าในที่สุด ถึงตรงนี้แล้วการกินเหล้าทั้งวันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สุดท้ายเหล้าก็กินเขาเช่นเดียวกับคนที่เขาเคยดูแคลนว่าโง่
คนที่ประมาทเหล้านั้น เสียผู้เสียคนมามากแล้ว บางคนต่อต้านเหล้าอย่างแข็งขันด้วยซ้ำ แต่ในที่สุดกลับตายเพราะเหล้า ที่จริงมิใช่แต่เหล้าเท่านั้น อบายมุขอื่น ๆ เช่น การพนัน ตลอดจนสิ่งล่อเร้าเย้ายวนทั้งหลาย ล้วนมีพิษสงที่ไม่ควรประมาททั้งสิ้น มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต่อต้านสิ่งเหล่านี้ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นทาสของมัน เช่นเดียวกับคนที่เกลียดนักการเมืองคอร์รัปชั่น แต่กลับลงเอยด้วยการทำเช่นนั้นเสียเอง ไม่จำต้องพูดถึงนักศึกษาที่ต่อต้านทุนนิยมหัวชนฝา แล้ววันหนึ่งก็กลับกลายเป็นนายทุนที่ร่ำรวยมหาศาลจากการเอาเปรียบผู้คน
เหล้า อบายมุข เซ็กส์ และเงินตรา มีพิษสงก็เพราะเราทุกคนมีความอ่อนแออยู่ภายใน จึงหวั่นไหวและเสียคนเพราะมันได้ง่ายมาก เมื่อใดก็ตามที่เรามองข้ามความอ่อนแอภายใน เชื่อมั่นในความกล้าแกร่งของตนเอง ก็ง่ายที่จะประมาทสิ่งเหล่านี้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของหายนะ
หากเกษียรเห็นคนเมาแล้ว แทนที่จะด่าว่าเขาโง่ กลับหันมาเตือนตนว่า จะต้องระมัดระวังตัวให้ดี เพื่อไม่ให้เป็นอย่างเขา เกษียรก็คงจะมีชีวิตที่ยืนยาวและผาสุก และอาจเป็นนักวาดหรือผู้กำกับชื่อดังอย่างเปี๊ยก โปสเตอร์เพื่อนรุ่นน้องก็ได้
View more