14 ม.ค. 64 (เย็น) - อย่าให้อำนาจแก่อารมณ์ : การที่เรารู้จักรักษาใจให้เฉยๆกับอารมณ์เหล่านี้ มันเป็นวิชาที่สำคัญในการที่รับมืออารมณ์เหล่านั้น มันเป็นการทำให้อารมณ์เหล่านั้นหมดพิษสงหรือว่าหมดอำนาจ เพราะเราไม่ได้ให้อำนาจกับมันมันก็คล้ายๆกับเวลาเรารู้สึกไม่ดีกับใครบางคน เช่น โกรธหรือเกลียดใคร จะเป็นเพื่อนบ้าน หรือจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ยิ่งเราโกรธเกลียดเขามากเท่าไหร่ เขายิ่งมีอำนาจเหนือเรามากเท่านั้น เพราะว่าเพียงแค่เห็นหน้าเขา ความดันเราก็ขึ้นแล้ว เพียงแค่ได้ยินเสียงเขา อารมณ์หรือจิตใจเราก็กระเพื่อมแล้ว ทำไมเขามีอำนาจเหนือเรา เพียงแค่เห็นหน้า...
14 ม.ค. 64 (เย็น) - อย่าให้อำนาจแก่อารมณ์ : การที่เรารู้จักรักษาใจให้เฉยๆกับอารมณ์เหล่านี้ มันเป็นวิชาที่สำคัญในการที่รับมืออารมณ์เหล่านั้น มันเป็นการทำให้อารมณ์เหล่านั้นหมดพิษสงหรือว่าหมดอำนาจ เพราะเราไม่ได้ให้อำนาจกับมันมันก็คล้ายๆกับเวลาเรารู้สึกไม่ดีกับใครบางคน เช่น โกรธหรือเกลียดใคร จะเป็นเพื่อนบ้าน หรือจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ยิ่งเราโกรธเกลียดเขามากเท่าไหร่ เขายิ่งมีอำนาจเหนือเรามากเท่านั้น เพราะว่าเพียงแค่เห็นหน้าเขา ความดันเราก็ขึ้นแล้ว เพียงแค่ได้ยินเสียงเขา อารมณ์หรือจิตใจเราก็กระเพื่อมแล้ว ทำไมเขามีอำนาจเหนือเรา เพียงแค่เห็นหน้าเขา ได้ยินได้ฟังเสียงเขา เราก็เกิดความรุ่มร้อน เกิดอาการกระสับกระส่าย ก็เพราะว่าเราโกรธเราเกลียดเขา เรามีความรู้สึกทางลบกับเขา
ถ้าเราไม่รู้สึกว่าลบกับเขา รู้สึกเฉยๆกับเขา เห็นหน้าเขา ได้ยินเสียงเขา เราไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร เราก็ยังมีสมาธิทำในสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้ คนเราอยากจะเป็นตัวของตัวเอง อยากจะเป็นนายของตัวเอง ไม่อยากให้ใครมีอำนาจเหนือเรา แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราโกรธ เกลียดใคร เรากำลังให้อำนาจกับเขา มาบงการจิตใจของเรา หรืออาจจะมาบงการชีวิตของเราเลยก็ได้ เพราะว่าหลายคน พอมีความโกรธเกลียดใคร ชีวิตผิดเพี้ยนไปหมดเลย เขาอยู่ที่ไหน เขาไปกินอาหารที่ไหน เราก็จะไม่ไปกินที่นั่น เขาชอบอะไรเราก็กลับมีความรู้สึกลบหรือเกลียดสิ่งนั้น เป็นปฏิกิริยา
ทำไมคนเราจึงมีพฤติกรรมอย่างนั้นได้ ก็เพราะความโกรธ ความเกลียด เราอยากจะทำร้ายเขา อยากจะแช่งชักหักกระดูกให้เขามีอันเป็นไป แต่ว่าแต่ความโกรธความเกลียดนั่นแหละ กลับทำให้เขามีอำนาจเหนือเรา เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากจะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ปรารถนาให้ใครมีอำนาจเหนือเรา มาบงการจิตใจหรือพฤติกรรมของเรา ก็ให้รู้สึกเป็นกลางๆกับเขา
ความรักก็เหมือนกัน ถ้าเรารักใคร มันก็ทำให้เขามีอำนาจเหนือเรา พ่อแม่ที่รักลูก สุดท้ายลูกก็มีอำนาจเหนือพ่อแม่ สามารถที่จะบงการความรู้สึกความนึกคิดหรือพฤติกรรมของพ่อแม่ได้ อันนี้ก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่ทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ถ้าเราเพียงแต่รู้สึกเป็นกลางๆ ต่ออารมณ์ ต่อผู้คน ต่อสิ่งของ หรือต่อเหตุการณ์แล้ว สิ่งเหล่านั้นก็จะมีอำนาจเหนือเราไม่ได้
เรารู้สึกเป็นกลางๆต่อความหนาว ใจเรารู้สึกเป็นกลางๆต่อความร้อน เจอร้อนเจอหนาว เราก็ไม่ทุกข์ ไม่บ่นไม่โวยวาย เพราะฉะนั้น การรู้จักทำใจให้เป็นกลางๆ เริ่มจากการเรียนรู้ รู้ซื่อๆ เวลามีความคิดและอารมณ์ใดเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคิดดีคิดชั่ว หรือว่าอารมณ์กุศลหรืออกุศล โดยเฉพาะอารมณ์อกุศล ไม่ต้องไปขับไสไล่ส่งมัน เพียงแค่รู้ทันมัน และวางใจให้เป็นกลาง มันก็จะไม่มีอำนาจเหนือเรา สุดท้ายมันก็ค่อยๆล่าถอยไป
ยิ่งถ้าเราเป็นมิตรกับอารมณ์เหล่านั้นด้วยซ้ำ อารมณ์เหล่านั้นยิ่งมารบกวนเราน้อยลง เหมือนกับอาคันตุกะที่เราสนิทสนม เราอยากให้มาอยู่กับเรานานๆ อยากให้มาเยือนเรานานๆ แต่ว่าเขากลับอยู่กับเราได้ไม่นาน ยิ่งอยากให้อยู่นานก็กลับอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียว แต่ยิ่งผลักไสไล่ส่ง กลับดื้อรั้น ดื้อด้าน ไม่ยอมไป อารมณ์ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะวางใจให้เป็นกลางๆ รู้ซื่อๆ อารมณ์นานาชนิด ก็มามีอิทธิพลมามีอำนาจเหนือเราไม่ได้ ก็ทำให้เราสามารถที่จะเป็นปกติสุขอยู่ได้ ไม่ว่ามีอะไรมากระทบก็ตาม
View more